Raw Food เป็นอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบที่เป็นออแกนิค คือ ปลูกขึ้นตามธรรมชาติ อาทิ ผักสด ผลไม้สด ถั่ว เมล็ดธัญพืช ต้นอ่อนของเมล็ดพืช เช่น ถั่วงอก ข้าวสาลี อัลฟาฟา สาหร่าย ฯลฯ ที่ปราศจากสารพิษและการปรุงแต่งทางเคมี ผ่านกระบวนการผลิตในอุณหภูมิที่ความร้อนไม่เกิน 42 องศาเซลเซียส ไม่มีส่วนผสมของ แป้ง น้ำตาล เพื่อคงคุณค่าเอ็นไซน์ของพืชผักผลไม้ และ คงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วน Vegan Food คือ อาหารที่ไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ และ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทุกชนิด เช่น ไข่ นม น้ำผึ้ง ฯลฯคุณอ้อ-สุมนา ไมซ์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร Raw/Vegan Food ประจำร้าน Ariya Organic Café กล่าวว่า ตนได้ศึกษาเรื่องอาหาร Raw/Vegan Food มาเป็นเวลานานกว่าสิบปี โดยได้ไปศึกษาเพิ่มเติมจากหลายสถาบัน อาทิ David Wolfe , Living Light Culinary Arts Institute เป็นต้น ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงในด้านนี้โดยเฉพาะ
ส่วนทำไมจึงหันมาสนใจศึกษาด้านอาหารเพื่อสุขภาพนั้น คุณอ้อกล่าวว่า เนื่องจากแต่ก่อนตนเป็นคนสุขภาพไม่ดี จึงเริ่มหันมารับประทานอาหารมังสวิรัติก่อน แต่พอได้มารู้จักอาหาร Raw/Vegan Food ได้เริ่มหันมาศึกษาและรับประทานไปด้วย ทำให้ได้เห็นถึงความแตกต่าง และอาการของโรคที่เคยเป็นก็ค่อยๆทุเลาลง เช่น ซีสต์ที่หน้าอก นิ่วในถุงน้ำดี ฯลฯ ก็หายไปโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้านอารมณ์ก็ดีขึ้นจากที่เป็นคนมักจะหงุดหงิดง่า ขี้โกรธ แต่กลับเปลี่ยนเป็นรู้สึกอารมณ์สงบขึ้น รู้สึกสดชื่นมาจากภายในร่างกาย และกลับมีพลังชีวิตมากขึ้น
ปัจจุบัน อาหารประเภท Raw Vegan Food กำลังได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเซเลบริตี้และผู้คนทั่วไปที่เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการบริโภคอาหารประเภทนี้ นั่นคือ ผู้ที่ทาน Raw/Vegan Food เป็นประจำจะรู้สึกถึงความแข็งแรงและความสะอาดของร่างกายจากภายในอย่างแท้จริง อาทิ ซูซาน ซาแรนดอน, แชร์, อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน ฯลฯ ส่วนในเมืองใหญ่ของอเมริกา อย่าง ซานฟรานฯ นิวยอร์ก ชิคาโก้ และลอส แองเจลิส สามารถพบร้านอาหารประเภท Raw Food ได้โดยทั่วไป
ที่ "อริยะ ออแกนิค คาเฟ่" (Ariya Organic Café) เราเลือกใช้วัตถุดิบออกแกนิคจากธรรมชาติที่สดใหม่มากที่สุดมาประกอบอาหาร และ นั่นถือว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้เราแตกต่างจากที่อื่น เราได้วางมาตรฐานในเรื่องกระบวนการจัดเตรียมอาหารของเราไว้อย่างสูง เช่น นำเข้าอุปกรณ์การประกอบอาหารทั้งหมดมาจากอเมริกา ซึ่งมั่นใจในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพที่ดีเยี่ยมได้เป็นอย่างดี
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ แนะนำทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนหันมาลองบริโภคอาหาร Raw Vegan Food กันให้มากขึ้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ทางด้านโภชนาการที่มีคุณค่าตามที่ร่างกายต้องการได้เต็มที่ โดยอาจจะเริ่มจากการหันมาลองทานผักสดให้มากขึ้น เช่น เพิ่มเมนูสลัดไว้ในรายการอาหารของคุณบ้าง และ หมั่นรับประทานผลไม้สด หรือ เลือกดื่มน้ำผลไม้สดมาเป็นของว่าง หรือ ของหวานแทน
"ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ อยากแนะนำให้ลองหันมารับประทานผัก ผลไม้สดกันให้มากขึ้น และ ขณะที่กำลังรับประทานอาหารต้องรู้จักเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และ กระบวนการดูดซึมทางร่างกาย หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารกล่อง ที่จะไปช่วยลดปริมาณกรดไขมัน ซึ่งจะทำให้เพิ่มจำนวนคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี(LDL) และ ลดจำนวนคอเลสเตอรอลที่ดีลง (HDL) ทางที่ดีที่สุดให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภททอด
"แต่ถ้าจำเป็นให้เลือกทอดด้วยน้ำมันดอกคำฝอยจะดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรงดอาหารจำพวกแป้ง (เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว) และเปลี่ยนมารับประทานขนมปังแผ่นธัญพืช (โฮล เกรน) หรือ ข้าวกล้องแทน รวมทั้ง ผักที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น หัวบีท, แครอท, ข้าวโพด, มะเขือเทศ, และ น้ำผลไม้คั้น จะไม่ทำให้คุณอ้วน โดยเฉพาะ ถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรกินดิบๆ หรือ นึ่ง แทนที่จะทอด และ ควรดื่มน้ำสะอาด อุณหภูมิเท่าในห้องให้มากๆ จะช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย"
"อริยะ ออแกนิค คาเฟ่" เป็นร้านอาหาร Raw/Vegan Food ครบวงจรแห่งแรกในเมืองไทย ออกแบบเมนูโดยผู้เชี่ยวชาญให้ง่ายต่อการรับประทาน และ คำนวณสารอาหารได้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ ให้บริการอาหาร Raw/Vegan Food แบบสดๆ เช่น Green Smoothies ที่ใช้ผักและผลไม้สดล้วนๆ โดยไม่มีน้ำแข็ง น้ำตาล น้ำเชื่อม หรือ ส่วนผสมทางเคมีต่างๆเลย อีกทั้งยังสะดวกในการสั่งซื้อไปรับประทานได้ที่บ้าน ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 (ตรงข้ามร้านเดอะพิซซ่า) ศูนย์การค้ามาบุญครอง สอบถามเพิ่มเติมที่โทร 02-626-0188
"อริยะ ออแกนิค คาเฟ่" เป็นธุรกิจหนึ่งใน บริษัท อริยะ 7 จำกัด ก่อตั้งขึ้นเพื่อต้องการให้คนไทยมีสุขภาพกายดี แข็งแรง จากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง เพื่อสอดรับกับ สถาบันปรับโครงสร้างร่างกาย อริยะ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดของการมีสุขภาพดีในวิธีทางการพึ่งพาตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง มีความรู้เพียงพอที่จะเลือกทางบำบัดรักษาตนเองด้วยการสร้างสมดุลให้กับร่างกายและเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ปรับตัวตามธรรมชาติ เพื่อต่อสู้กับสภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติต่อเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น